11 วิธีช่วยทำให้คุณเลิกวิตกกังวล เรื่องที่ควบคุมมิได้

[luktan1479]

อย่ าพึ่งตระหนกตกใจไปหากคุณเป็นผู้ที่มักเ ค รี ย ด หรือไม่สบายใจกับสิ่งต่างๆเนื่องจากว่าโน่นเป็นเรื่องธรรมดา

แต่ว่านิสัยอย่ างนี้มันไม่ใช่เรื่องดีนักหรอคอยก เพราะเหตุว่ามันส่งผลต่อสภาพจิตใจแล้วก็ชีวิตประจำวันของคุณได้


ถึงแม้การเลิกนิสัยอย่างงี้นั้นบางครั้งอาจจะไม่ใช้ว่าจะง่าย แต่ก็มีหนทางอยู่เช่นเดียวกัน วันนี้เรา


จึงมีกลเม็ดที่สามารถช่วยให้ท่านไม่เ ค รี ย ด เมื่อจำต้องประจันหน้ากับสิ่งต่างๆและก็สิ่งที่ควบคุมมิได้ ไปชมกันเลยว่ามีอะไรบ้ าง

1. ทำความเข้าใจที่จะปล่อยวาง

หนึ่งในมูลเหตุที่ทำให้ท่านมักจะเหนื่อยใจอยู่เป็นประจำก็คือการปล่อยวางไม่เป็น การปล่อยวางนั้นย าก

แต่ว่าจงจำไว้ว่ามันมีอะไรบางอย่างบางอย่ างที่คุณเปลี่ยนมิได้อยู่ดี สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นไปแล้วมันไม่สามารถที่จะย้อนกลับไปคืนมาได้หรอก

เพราะอะไรคุณไม่ยอมรับมันแล้วปล่อยมันไปล่ะ ต่อนี้ไปคุณจะไปก้าวไปด้านหน้าต่อและโฟกัสกับสิ่งที่จำเป็นจริงๆ

2. โฟกัสกับสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ก็พอ

หากในอดีตกาลคุณทำผิดพลาดไปแล้ว ก็จะต้องมาคิดถึงสิ่งที่คุณสามารถแก้ไขมันได้ในเวลานี้แทน ถ้าหากคุณไม่ชอบใจกับผลงานในเดือนที่ผ่านมา

ก็ลองพัฒนาตนเองในตอนนี้ให้ดีขึ้น อย่ ามัวรีรอที่จะปรับปรุงแก้ไขเนื่องจากมันอาจจะสายไป ดังเช่นว่าถ้าหากคุณสอบตก คุณก็อาจจะจำเป็นต้องสร้างนิสัยใน


การศึกษาเล่าเรียนขึ้นมาใหม่ ควรอย่ าลืมว่ามีสิ่งที่คุณสามารถเปลี่ยนมันได้ แล้วก็ต้องโฟกัสกับสิ่งเหล่านี้จะดีกว่า

3. ประยุกต์แผนที่ไม่ต า ย ตัวและมีความยืดหยุ่น

อย่ าพึ่งยอมแพ้ถ้าเกิดสิ่งต่างๆไม่เป็นอย่ างที่คุณอยาก ทดลองใช้แผนอื่นๆแทนก็ได้

คุณอาจจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแผนการ แปลงกรรมวิธีคิด ลองคิดถึงแนวทางแก้ปัญหาแทนที่จะมานั่งกังวลกับสิ่งที่ไม่เป็นราวกับจิตใจ

4. ออกมาจากพื้นที่ปลอดภัย (Comfort Zone)

อีกหนึ่งวิธีที่สามารถจะช่วยให้คุณหายกังวลใจก็คือการลองทำอะไรที่ไม่เหมือนกันกับเดิมด้วยการเปิดใจรับของใหม่ๆพบเห็นคนใหม่ๆ

ลองทำของใหม่ๆคุณอาจจะพบว่าตนเองทำได้ดีมากยิ่งกว่าที่คิด จงออกมาจากคอมฟอร์ทโซนของตนเอง แล้วคิดให้ต่างไปจากเดิม

5. เป็นจริงเป็นจังปรับปรุงตัวเองให้เป็นคนที่ดีมากยิ่งกว่าเดิม

คุณจำต้องพย าย ามปรับปรุงตัวเองให้ดียิ่งขึ้น แทนที่จะมัวแต่ไม่สบายใจกับสิ่งที่ควบคุมมิได้ เรียนรู้จากความบกพร่องในสมัยก่อน

และอย่ าพย าย ามเปลี่ยนแปลงอดีตเนื่องจากนั่นเป็นสิ่งที่คุณควบคุมมิได้ แต่จงเปลี่ยนแปลงปรับปรุงตัวคุณให้ดีขึ้นกว่าเดิม

6. ใช้เวลากับคนคิดบวก

การไม่สบายใจมากจนเกินไปนั้นทำให้คุณสติแตกได้ ทดลองคุยกับเพื่อนพ้องที่มีทัศนคติที่ดี หรือมองโลกในด้านบวก

คุยกับผู้ที่เขาตั้งใจฟังคุณ และก็รู้เรื่องคุณ เล่าให้เขาฟังว่าคุณวิตกกังวลกับอะไร


และเอาข้อแนะนำของพวกเขามาประยุกต์ การพูดคุยกับคนที่คิดบวกจะช่วยให้คุณได้มุมมองใหม่ๆมากขึ้นเรื่อยๆ

7. เปิดใจรับการเปลี่ยนแปลง

หลายสิ่งในชีวิตนั้นเกิดเรื่องที่ไม่แน่นอน แต่นี่แหละคือปัจจัยที่ทำให้ชีวิตพวกเรานั้นสื่อความหมายขึ้นมาได้ ดังนั้นควรเปิดรับความ

เปลี่ยนแปลง ด้วยเหตุว่าความเคลื่อนไหวเป็นสิ่งที่ไม่สามารถที่จะเลี่ยงได้

แต่ผู้ใดกันแน่จะรู้ล่ะว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้นบ้ าง อย่ ากลัว และก็ต้องเข้าไปค้นหามัน

8. อย่ าโทษตนเอง

คุณไม่สามารถที่จะสามารถควบคุมได้ทุกอย่ าง ฉะนั้นอย่ าโทษตนเอง คุณอาจจะเคยทำอะไรแ ย่ๆมาก่อน

แต่คุณก็สามารถเอามันมาเป็นบทเรียนเพื่อพัฒนาตนเองได้ การโทษตัวเองมีแม้กระนั้นจะมีผลให้สิ่งต่างๆ

แ ย่ลง สิ่งที่คุณควรจะทำเป็นมองหาคนที่เคยทำผิดพลาดแล้วเรียนรู้ว่าเขาปรับแก้มันได้อย่างไร ให้กำลังใจตนเองว่าคุณก็ทำได้เช่นเดียวกัน

9. ฝึกให้มีสมาธีรวมทั้งมีสติอยู่ตลอด

นั่งสมาธิ ฝึกลมหายใจ ทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน แล้วคุณจะพบว่ามันเกิดผลดีต่อคุณอย่ างมาก

10. ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต

วิถีชีวิตเป็นหนึ่งในสาเหตุของความเป็นห่วง อย่ างดังเช่น คุณหนักใจว่าตนเองอ้วนเกินความจำเป็น แม้กระนั้นคุณก็ยังไม่ยอมทำอะไร

แทนที่จะอยู่เฉยๆเพราะเหตุใดไม่ลองเปลี่ยนแปลงมะนทีละเล็กละน้อยล่ะ? ทดลองออกกำลังกายทุกวี่วัน หลีกเลี่ยงอ า ห า ร ขยะ นอนหลับให้เพียงแค่


เพียงพอ บางโอกาสคุณอาจจะคิดว่าตัวเองทำไม่ได้หรอก แต่ศัตรูจริงๆก็คือตัวคุณเองนั่นแหละ เพราะฉะนั้นคุณจะต้องเอาชนะตนเองให้ได้

11. หยุดเล่นโซเชียลมีเดีย หรือลองพักเอาไว้ก่อน

การเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์คมากเกินความจำเป็นนั้นทำให้ท่านตื่นตระหนกได้ง่ายอย่างยิ่ง มันมีการเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่นอยู่เป็นประจำ ถ้าเกิดคุณคิดว่าการ

เล่นเครือข่ายสังคมมันทำให้ท่านรู้สึกแ ย่ คุณก็ควรจะเลิกเล่นซะ แล้วหันไปทำอะไรที่มีสาระ หรือให้ความสบายกับคุณแทนจะดีมากกว่า
ฟุ่งซ่าน
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13460/