เที่ยวบรัสเซลส์ในฤดูหนาว กิจกรรมและเทศกาลต้องไม่พลาด

[Somchai]

เที่ยวบรัสเซลส์ เดินเที่ยวกันแบบชิลล์ๆที่เมืองหลวงของเบลเยียม
คนใดที่กำลังมองหาทริปยุโรปแบบชิลล์ๆท่องเที่ยวสบายๆได้บรรยากาศที่ทั้งยังคลาสสิกแล้วก็ความสนุกสนานร่าเริงแบบเรียบง่าย บรัสเซลส์ (Brussels) เมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยมเป็นเลิศในเป้าหมายที่น่าแวะไปเยี่ยมสักหนึ่งครั้ง ด้วยบรรยากาศที่ผสมระหว่างความเก่าแก่ของสถาปัตยกรรมยุโรป กับไลฟ์สไตล์ชาวเมืองที่เรียบง่ายแม้กระนั้นน่าดึงดูด ทำให้บรัสเซลส์ไม่ใช่แค่ศูนย์กลางของเมืองยุโรปแค่นั้น แม้กระนั้นยังไปเต็มด้วยช็อกโกแลตหอมหวาน เบียร์สดแคว้น คาเฟ่น่ารักน่าเอ็นดูๆแล้วก็แลนด์มาร์คสุดตระการตาที่เดินดูได้สบายๆตลอดวัน ด้วยเหตุดังกล่าวผู้ใดที่ต้องการออกทริปแบบสบายๆลองเที่ยวบรัสเซลส์สักหนึ่งครั้งมองสิ บอกเลยว่าคุณควรต้องพอใจที่ได้มาตรงนี้อย่างแน่แท้


เดินเที่ยวบรัสเซลส์ เมืองโบราณทางประวัติศาสตร์ ศูนย์กลางสหภาพยุโรป
บรัสเซลส์ (Brussels) เป็นเมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยม เป็นศูนย์กลางสำคัญทั้งยังในทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม แล้วก็การบ้านการเมืองระดับนานาชาติ เพราะว่าตรงนี้เป็นที่ตั้งของทั้งยังสหภาพยุโรป (EU) และก็หน่วยงานนาโต้ (NATO) จนได้รับสมญานามว่าเป็น "เมืองหลวงที่ยุโรป" ถึงแม้ขนาดของเมืองบรัสเซลส์จะมิได้ใหญ่มโหฬารเสมือนเมืองหลวงอื่นๆแต่ว่าก็เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม ศิลป์ที่มีเอกลักษณ์ แล้วก็บรรยากาศสุดรื่นเริงที่ไปเที่ยวได้ไม่น่าเบื่อ นักเดินทางหลายท่านมักเลือกแวะเที่ยวบรัสเซลส์แบบ 1 Day Trip ก่อนเริ่มเดินทางไปยังเมืองอื่นๆ
โดยบรัสเซลส์เริ่มริเริ่มตั้งขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 10 และก็เติบโตขึ้นเป็นศูนย์กลางกิจการค้าและก็ศิลป์ในสมัยฟลานเดอร์ส ทั้งยังได้รับอิทธิพลจากนานัปการอารยธรรมในตอนที่อยู่ใต้การปกครองของประเทศสเปน ออสเตรีย แล้วก็ประเทศฝรั่งเศส กระทั่งเปลี่ยนมาเป็นเมืองที่ประสมประสานความเก่าแก่และก็ใหม่ได้อย่างพอดีในทุกมุมของเมืองจนถึงทุกวันนี้

แลนด์มาร์กที่เที่ยวบรัสเซลส์ สถานที่ที่ได้รับความนิยมที่ไม่สมควรพลาด
แน่ๆว่าบรัสเซลส์เป็นเมืองหลวงที่มิได้ใหญ่อะไรมากมาย แต่มีแลนด์มาร์กมากที่คนระลึกถึงไม่ว่าจะเป็น อโตภรรยาม สถาปัตยกรรมรูปร่างประหลาดตาที่ถูกสร้งขึ้นในปี 1958 แต่ว่าตรงนี้ไม่ใช่ที่เดียวที่ไม่สมควรพลาดถ้าหากมายังเมืองนี้เพียงแค่นั้น แม้กระนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวบรัสเซลส์ฯลฯที่พวกเราต้องการชี้แนะให้ท่านได้ทดลองไปสักหนึ่งครั้ง

สี่เหลี่ยมด้านเท่ากรองด์ปลาช (Grand Place)
สี่เหลี่ยมจัตุรัสกลางเมืองบรัสเซลส์ที่โด่งดังไปทั้งโลก ด้วยความสวยสดงดงามของตึกรอบๆที่ทำขึ้นมาตั้งแต่ยุคกลาง อีกทั้งสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรก โกธิก แล้วก็นีโอโกธิก ทำให้ตรงนี้ได้รับการชมเชยให้เป็นเยี่ยมในสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่งามที่สุดในยุโรป นอกเหนือจากที่จะเป็นสถานที่ถ่ายภาพที่ได้รับความนิยมแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางของเทศกาลสำคัญอย่างงานประพรมดอกไม้ที่จัดขึ้นทุกๆ2 ปี

ศาลาว่าการกรุงบรัสเซลส์ (Brussel Town Hall)
อาคารตึกดั้งเดิมอีกหนึ่งแห่งที่ตั้งอยู่ในเขตสี่เหลี่ยมด้านเท่ากรองด์ปลาช โดยมีหอสังเกตการณ์สูงเด่นเป็นเอกลักษณ์เด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิกผสมบาโรก ตัวตึกผลิตขึ้นมาตั้งแต่ตอนศตวรรษที่ 15 แล้วก็เคยผ่านการบูรณะมาหลายสมัยหลายยุค ด้านในยังเคยถูกใช้เป็นที่ทำการเทศบาลเมือง แล้วก็ในขณะนี้ได้เปิดให้นักเดินทางเข้าชมความงดงามของสถาปัตยกรรม พร้อมได้ทำความเข้าใจเรื่องราวประวัติศาสตร์ของบรัสเซลส์ผ่านงานศิลปอีกด้วย

สวนจูบิลี่ (Jubilee Park)
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ศูนย์กลางเมืองที่เปรียบเหมือน "ปอด" ของบรัสเซลส์ ด้วยพื้นที่กว้างกว่า 74 เอเคอร์ เต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น ลานกิจกรรม รวมทั้งประติมากรรมที่โล่งแจ้ง ตรงนี้ยังเป็นที่ตั้งของประตูชัย Cinquantenaire และก็พิพิธภัณฑสถานสำคัญอีกหลายๆที่ ซึ่งแต่เดิมสวนที่นี้ถูกทำขึ้นในจังหวะครบรอบ 50 ปี การประกาศเสรีภาพของประเทศเบลเยี่ยม

เมาท์ เดส อาร์ต (Mont des Arts)
พื้นที่ศิลป์บนเนินที่เปลี่ยนเป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรมร่วมยุคจุดศูนย์กลางเมือง รอบๆนี้เคยเป็นย่านที่อยู่อาศัยหนาแน่น ก่อนที่จะถูกปรับปรุงโดยพระผู้เป็นเจ้าเลออปอลที่ 2 ให้แปลงเป็นแหล่งรวมศิลป์ ด้วยการออกแบบแปลนเมืองใหม่ทั้งหมดทั้งปวง ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถาน มึงลเลอรี ห้องหนังสือ แล้วก็จุดสำหรับเพื่อชมวิวเมืองที่งามที่สุดในบรัสเซลส์ เหมาะกับแฟนศิลป์ แล้วก็นักเดินทางที่ปรารถนาเห็นทิวทัศน์เมืองแบบทั้งปวง

มหาวิหารเซนต์ไมเคิลและก็เซนต์ฉันมองลา
หนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญที่สุดของเมืองบรัสเซลส์ มหาวิหารที่นี้ผลิตขึ้นตั้งแต่ตอนศตวรรษที่ 13 ในสไตล์โกธิก และก็คราวหลังมีการศึกษาค้นพบว่าภายใต้พื้นที่โบสถ์ยังมีซากโบราณจากศตวรรษที่ 11 แอบซ่อนอยู่ ซึ่งด้านในวิหารถูกตกแต่งอย่างงดงามด้วยหน้าต่างกระจกหลายสี เสาหินประติมากรรมอัครสาวก แล้วก็ระฆัง 49 ใบศูนย์รวมกันเป็นค้างริลใหญ่ ที่ร้องเพลงเสียงดนตรีได้อย่างน่าประทับใจ

พิพิธภัณฑสถานเมืองบรัสเซลส์ (Brussel City Museum)
เป็นสถานที่ที่ตั้งอยู่ในตึกประวัติศาสตร์ที่เรียกว่า "Maison du Roi" ซึ่งมีต้นแบบสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิก ตัวพิพิธภัณฑสถานนำเสนอเรื่องราวต่างๆของเมืองบรัสเซลส์ตั้งแต่สมัยก่อนจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ผ่านวัตถุโบราณมากยิ่งกว่า 7,000 ชิ้น ทั้งยังภาพวาด ประติมากรรม เสื้อผ้า สิ่งทอ และก็ของสะสมอีกเยอะมาก สถานที่นี้บางทีก็อาจจะเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการรู้เรื่องความเป็นมาของบรัสเซลส์ในระดับหนึ่ง แต่ว่าก็สามารถไปเที่ยวดูแบบเพลินใจได้ด้วยเหมือนกัน

อะโตภรรยาม (Atomium)
แลนด์มาร์กเครื่องหมายของบรัสเซลส์ที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก ตัวตึกถูกผลิตขึ้นในปี 1958 สำหรับงาน Expo World Fair แล้วก็วางแบบให้เป็นส่วนประกอบทรงอะดังที่ประกอบไปด้วยลูกกลม 9 ลูก เชื่อมกันด้วยท่อโลหะ ซึ่งด้านในสามารถเข้าชมรวมทั้งเดินไปยังลูกกลมอย่างอื่นได้ด้วย โดยด้านในมีทั้งยังนิทรรศการถาวรที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์แล้วก็วัฒนธรรม รวมถึงทิวทัศน์แบบ 360 องศาของเมืองจากจุดสำหรับชมวิวข้างบน พูดได้ว่าตรงนี้มีอีกทั้งงานศิลปะ สถาปัตยกรรม รวมทั้งศูนย์ทำความเข้าใจในที่เดียวเลย

ผลสรุป
เมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยมอย่าง "บรัสเซลส์" แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆที่ดูไม่ได้เป็นจุดมุ่งหมายหลักของผู้ใดกันแน่ แม้กระนั้นก็เป็นเป้าหมายที่เหมาะกับคนที่ต้องการมาท่องเที่ยวแบบชิลล์ๆท่ามกลางบรรยากาศแบบสบายๆด้วยเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์มากมาย แล้วก็สถานที่เที่ยวสำคัญอีกหลายที่ ซึ่งการได้มาท่องเที่ยวเมืองบรัสเซลส์ ที่เป็นศูนย์กลางด้านการเมืองของสหภาพยุโรป ก็เลยเป็นอะไรที่น่าดึงดูดสำหรับคนที่ประทับใจประวัติศาสตร์ ศิลป์ แล้วก็วัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์