5 นิสัยแย่ๆอย่าทำในสถานที่ทำงาน..ใครหลายๆคนไม่รู้ตัว

[Prichas]

มากมายหลากหลายองค์กรให้คะแนนงานบุคลากรกันเป็นทุกปี แม้กระนั้นก็มีบางที่จัดกันปีละ 2 ครั้ง

เพื่อตรวจเช็คการทำงานของบุคลากร รวมถึงความรู้สึกนึกคิด


ซึ่งไม่ได้วัดออกมาเป็นระดับคะแนน หรือความพอใจ จากการตอบคำถาม "ถูก" หรือ "ผิด" ที่สำคัญ


สิ่งที่ได้กล่าวออกไปในระหว่างการวัดบางครั้งก็อาจจะสร้างสรรค์ หรือ ทำ ล า ย หน้าที่การงานได้เลยทีเดียว

แม้กระนั้นบางบริษัทเห็นว่าการประเมินผลงานเทศการที่จัดให้มีขึ้นทุกปีเป็นเรื่องเชย

เพราะเจ้านายควรประเมินเรื่องอื่นๆทั้งขีดความสามารถสำหรับในการปฏิบัติงาน

การบริการลูกค้า ทีมเวิร์ก ไปจนถึงทัศนคติ ทำให้หลายองค์กรใช้ระบบการให้คำแนะนำย้อนกลับมา

หรือฟีดแบ็กรวมถึงระบบการสอนงาน หรือผู้ฝึกสอนชิ่งแทน แต่ว่าไม่ว่าองค์กรจะใช้การประเมินแบบใด

สิ่งสำคัญเป็นบุคลากรต้องสามารถสื่อ ส า ร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


และมี 5 ประโยคที่ไม่ควรเอ่ยออกมา ด้วยเหตุว่าสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นผลลบมากกว่า


ซึ่ง cheatsheet.com เขียนถึงหัวข้อนี้ไว้อย่างน่าดึงดูด

"นี่ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน"

ประโยคนี้นอกเหนือจากที่จะชี้ให้เห็นว่า ผู้พูดต้องเปลี่ยนแปลงมรรยาทไม่ให้พูดตรงออกมาแล้ว

ควรจะจดจำไว้เพราะว่า การกำหนดหน้าที่งาน หรือ Job Description

ไม่ได้ครอบคลุมหน้าที่ที่จำเป็นต้องทำทั้งหมด 100% แถมยังจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตามภาวะธุรกิจอีกด้วย

นายจ้างชื่นชอบพนักงานที่มีความยืดหยุ่น พร้อมต่อกรกับงานหลายๆอย่าง

ด้วยทัศนคติเชิงบวก แต่หากต้องการสะท้อนถึงความอยากที่มากเกินความจำเป็นของนาย

ก็สามารถเลือกใช้ประโยคอื่นๆแทน อาทิเช่น "งานเดิมที่กำหนดเส้น ต า ย เอาไว้

ทำให้ยังไม่มีช่องทางทำหน้าที่เพิ่มอีก" หรืออธิบายว่า

คุณไม่ควรรับผิดชอบงานส่วนนี้ เพราะมีผู้อื่นที่เหมาะอย่างยิ่งกว่า

"คุณมุ่งหวังจากฉันมากจนเกินความจำเป็น"

แน่นอนว่า นายจ้างย่อมคาดหมายหลายเรื่อง

ซึ่งอาจจะทำให้พนักงานมีความคิดว่าดำเนินการเกินเงินเดือนที่ได้รับ

แม้กระนั้นการคุ้มครองตนเองมากเกินความจำเป็นก็บางครั้งอาจจะไม่ใช่แนวทางที่เยี่ยมที่สุด


ด้วยเหตุนั้น การงดเว้นทนรวมทั้งควบคุมสติเป็นหนทางที่เยี่ยมที่สุด ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอะไร

ด้วยเหตุว่าการแสดงอารมณ์ออกมาอาจไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น

"ฉันทำไม่ได้"

การพูดว่า "ทำไม่ได้" เป็นข้อจำกัด ซึ่งเว้นแต่ผู้พูดจะจำกัดความคิดของตนเอง

เกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองสามารถทำได้แล้ว ยังให้ความหมายคิดของผู้อื่น

รวมถึงผู้ว่าจ้างเกี่ยวกับความสามารถของผู้พูดด้วย

การพูดประโยคนี้พอๆกับบอกผู้ว่าจ้างว่า คุณขาดทักษะที่จะปฏิบัติงานให้เสร็จได้

และก็ถ้าหากตอบห้วนๆก็อาจแปลได้ว่า คุณไม่เพียรพยายามจะเรียนรู้ ซึ่งจะส่งผลเสียเข้าไปอีก

ด้วยเหตุดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องเลี่ยงไปใช้คำกล่าวอื่นๆตัวอย่างเช่น "เราจะทดลองทำยังไงดี"

หรือ "นี่เป็นคำแนะนำที่ดี ให้โอกาสฉันได้มีส่วนร่วมที่จะทำให้สำเร็จด้วยคน"

ซึ่งจะเปิดทางให้สามารถหาแผนที่เหมาะสมกับตนเองได้

"ขอบพระคุณที่สังเกตเห็นในที่สุด"

การได้รับคำชื่นชมสำหรับเพื่อการประมวลผลงานนับเป็นความสำเร็จในหน้าที่การงานขั้นเล็กๆ

แต่ว่าก็ไม่สมควรหลงระเริงกับคำกล่าวชมนั้น ถ้าหากไม่อาจจะต่อกรก้าวหน้าพอเพียง ดังเช่น การกล่าวคำประเภทว่า

"ขอบคุณที่มองเห็นสุดท้าย" จะก่อให้บรรยากาศกลับอึดอัด

และอาจจะเป็นผลให้นายจ้างไม่สรรเสริญคุณอีกในอนาคต เพียงแค่ขอบพระคุณ

หรืออธิบายถึงความพยายามที่นานกว่าจะเสร็จก็คงจะพอเพียงแล้ว

"ไม่ได้ขี้คร้านนะ ก็แค่ไม่แคร์เพียงแค่นั้น"

นี่เป็นประโยคเด็ดจากภาพยนตร์เรื่อง "สถานที่ทำงาน สเปซ" แม้กระนั้นถ้าหากนายจ้างมิได้รู้จัก

สถานการณ์หลังกล่าวประโยคนี้ก็จะชักชวนอึดอัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนายจ้างมองหน้าเพื่อ

ให้ชี้แจงถึงคำพูดดังกล่าวที่แสดงถึงความรู้สึกไม่ถูกใจ

ทราบเคล็ดลับ 5 ประโยคที่ห้ามพูดแล้ว ก็ทุ่มเทดำเนินการให้เต็มที่

เวลาประเมินผลงานจะได้เปิดใจกับหัวหน้ากันแบบสบายใจ

เผื่อได้ปรับเงินเดือนขึ้น แถมด้วยตำแหน่งใหม่ๆก็ได้ คนไหนจะไปรู้!
นิสัย
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13385/
คำค้นหา : มารยาท