พิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ

[Jessicas]

พิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ
         ในสมัยก่อนเมื่อมนุษย์ยังไม่เคยรู้ การพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ การที่ดูวันที่เป็นนั้นมาจากรู้จักการดูดวงดาวเพื่อมองวันเดือนปี
ให้ง่ายมากขึ้น แล้วก็เริ่มมีการสร้างเครื่องจับเวลา สร้างการจดบันทึกหรือออกแบบการดูดาวต่างๆเพื่อทำแบ่งฤดู
แบ่งวันเดือนปีต่างๆการพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะ ทำให้สามารถระบุออกมาเป็นตัวเลขได้อย่างชัดเจน ดำรงชีพทุกวันได้
ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ช่วยทำให้มีการจดจำเรื่องราวและก็ใช้เพื่อสำหรับการเตือนความจำต่างๆเจริญอีกด้วย
เราจึงพินิจได้ว่าสำหรับการพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะหรือลักษณะของปฏิทินห้อยไทย ชอบมีการบอกกำกับถึงข้างขึ้น
ข้างแรมเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการดูพระจันทร์ที่พวกเราต้องใช้การพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะไม่ได้บอกแค่การรับรู้วันเดือนปีได้เท่านั้น
แม้กระนั้นการจดจำวันทั้งปีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย การออกแบบพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะแล้วก็นับวันให้ตรงกันทั่วโลก ก็เลยเป็นกรรมวิธีที่มนุษย์ใช้ร่วม
กัน อย่างไรก็ตามรูปแบบของการนับวันที่ร่วมกันอย่างเป็นสากลสามารถช่วยเหลือกันระบุเพื่อทำการนัดหมายหรือทำการ
บอกวันตอนที่สำคัญได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น การกำหนดปฏิทินอย่างเป็นสากลก็เลยมีความเกี่ยวเนื่องต่อยุคปัจจุบันนี้เป็นอย่างยิ่ง
การพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ
ก่อนจะเป็นการพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ การกำเนิดปฏิทินคราวแรกของโลกมาจากชาวบาบิโลเนียน ซึ่งมีการย้อนรอย
กลับไปในตอนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยมาจากภาษาโรมันของชาวภาษากรีกสมัยก่อน ในยุคของชาวภาษากรีกโบราณนั้นยังไม่
มีการใช้การพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะ แต่คนรุ่นก่อนมีการทำปฏิทินบอกวันเวลาขึ้นมา เมื่อถึงกำหนดเวลาจะมีบุคคลที่กระทำการร้องบอกวัน
เวลาขึ้น การบอกเวลาในสมัยเก่ามีความหมายมากเพื่อเป็นการบอกการขึ้นวันเดือนใหม่เพื่อทราบถึงลูกหนี้ที่ยังมีการ
ติดหนี้ของเจ้าหนี้อยู่ ภาษาอังกฤษคือ "I Cry" ภาษาไทยหมายความว่า "การตะโกนบอก" ภาษาโรมันของชาวภาษากรีกอดีตกาล
เรียกว่า Kalend ภาษาอังกฤษจึงใช้คำว่า Calendar ในภาษาอังกฤษ
แต่การพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะมีประวัติความเก่าแก่สืบย้อนกลับไปถึงเรื่องราวของปฏิทินโลก ระยะเวลาของ
การพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะนั้นช้านานมีความเก่าแก่มานานมากกว่าพันปี โดยระบบการนับวันที่ตามชาวบาบิโลเนียนที่มีการ
ระบุวันเดือนปีขึ้นมาดูจากระยะต่างๆของดวงจันทร์เกี่ยวกับการสังเกตข้างขึ้นข้างแรม เดี๋ยวนี้เราสามารถ
ตีความหมายนั้นได้ว่าเป็นรูปแบบของจำพวกปฏิทินจันทรคติ โดยเมื่อครบการกำหนดข้างขึ้นเราแรมครบ 12 รอบจะเป็น
การครบฤดูให้เวียนกลับมา
ปฏิทินของเมืองไทยได้ถูกตีพิมพ์ขึ้นคราวแรก 14 เดือนมกราคม พ.ศ. 2385 ตั้งแต่ยุครัชกาลที่ 3 ฉะนั้น วันแล้ววันเล่าที่ 14
มกราคมทุกปี มีการกำหนดให้เป็นวันที่มีความหมายเพราะใช้ปฏิทินเผยแพร่ขึ้นมาคราวแรก เมืองไทยในสมัยสมัยก่อนมี
การใช้ปฏิทินจันทรคติตั้งแต่สมัยจังหวัดสุโขทัยมีการนับเป็นปีตามมหาศักราชและก็จุลศักราช ต่อมาในรัชสมัยรัชกาลที่ 3
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้มีการกรุณาจากแบบปฏิทินเดิมให้เปลี่ยนเป็นปฏิทินสุริยคติ มีแบบอย่าง
การใช้มีความนำสมัยลักษณะสากลตามปฏิทินเกเกลื่อนกลาดอเรียน ในที่สุดก็เลยมีการจัดทำการพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะขึ้นเพื่อใช้งานนั้นเอง