1. ปลูกต้นไม้ทรงสูงเพื่อบังแสงอาทิตย์ โดยที่จะต้องให้มีกระแสลมเย็นพัด ผ่านใต้พุ่มไม้ใบในความเร็วที่พอเหมาะพอควร เพื่อลดอุที่ภูเขาไม่ด้านนอกใกล้บริเวณบ้านและก็ คุ้มครองป้องกันลมพัดผ่านเข้าตัวบ้านมากจนเกินไป โดยควรปลูกต้นไม้ในทิศตะวันออกแล้วก็ ทิศตะวันตก
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/17eeb662ad7588e64.jpg)
2. ควรที่จะทำการเลือกจำพวกต้นไม้ที่สมควรสำหรับใช้เป็นร่มเงาที่มีอยู่ตามเขตแดนเป็นต้นว่า ต้นปีบ ต้นอินทนิล ต้นสัตบัน ต้นสุพรรณิกา เป็นต้น เพื่อลดการใช้ปุ๋ย ยาฆ่า แมลงการรักษา เพราะว่าต้นไม้เหล่านี้มีความเคยชินกับภาวะตำแหน่งที่ตั้ง และก็สภาพอากาศในประเทศไทยอยู่แล้ว
3. นำหลักภูมิสถาปัตย์มาใช้ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมรอบๆบริเวณบ้านให้ เย็นสบาย โดยการปลูกพืชคลุมดิน ปลูกหญ้า จัดแต่งสวน ทำน้ำตกจำลอง เป็นต้น
4. กลบดินรอบๆรอบบ้านให้สูง เพื่อพื้นแล้วก็ผนังนิดหน่อยน้อยกว่าดินทำให้สามารถนำความเย็นจากดินมาใช้ และก็ปลูกไม้พุ่มบริเวณผนังบ้าน
(https://img2.pic.in.th/pic/5df865d93149d6685.jpg)
5. ในกรณีที่มีพื้นที่จำกัด บางทีอาจจะปลูกต้นไม้ดัด หรือไม้เลื้อยตามระเบียงหรือรั้ว เพื่อลดลมร้อนพัดผ่านเข้าตัวบ้าน และลดความแรงของแสงอาทิตย์ที่ ส่องผิวอาคาร
(https://img2.pic.in.th/pic/63f16c152ad635b88.jpg)
6. ทำรางน้ำแล้วก็ท่อสำหรับเพื่อระบายน้ำจากหลังคา หรือส่วนต่างๆภายในบ้านให้ สมควร เพื่อปกป้องความชุ่มชื้นซึมเข้าไปในบ้าน หรือบางทีก็อาจจะทำท่อที่มีไว้เพื่อระบายน้ำที่ได้จาก วิธีสำหรับซักล้างไปใช้รดน้ำต้นไม้
7. ถ้าอยากได้ทำที่จอดรถยนต์ ควรจะทำที่หยุดรถพร้อมหลังคาในด้านทิศตะวันออก หรือทิศตะวันตก เพื่อเป็นการช่วยลดความร้อนผ่านเข้ามาในตัวบ้านโดยตรง
(https://img2.pic.in.th/pic/872e2369810c607ad.jpg)
8. บุฉนวนกันความร้อนที่หลังคาและผนัง โดยความครึ้มของฉนวนที่ใช้ต้อง ขึ้นอยู่กับภาระหน้าที่ทำความเย็น แม้กระนั้นส่วนมากใช้ฉนวนที่มีความหนาราวๆ 2-3 นิ้ว (50-75 มิลลิเมตร) ฉนวนสำหรับหลังคารวมทั้งผนังมีหลายประเภท ได้แก่ ฉนวนใย แก้ว ฉนวนเยื่อกระดาษ ฉนวนเซรามิกทาสีฝาผนังภายนอกของบ้านเป็นสีอ่อน ใช้วัสดุที่มีผิวมันรวมทั้งกันความชื้น
9. ใช้กระเบื้องหลังคาสีอ่อน เพื่อสะท้อนความร้อนเจริญ
10. สำหรับฝาผนังด้านที่มีระเบียงยื่น ควรจะเลือกใช้ประตูหรือหน้าต่างจำพวกบานกลับที่สามารถควบคุมปริมาณลมได้ดีมากยิ่งกว่าการใช้ประตูหรือหน้าต่างประเภทบานเลื่อน
11.ติดตั้งหน้าต่างกระจกเฉพาะที่จำเป็นต้องแค่นั้น โดยให้เพียงพอสำหรับในการรับแสงไฟจากธรรมชาติ และก็ควรหลบหลีกการตำหนิดตั้งด้านทิศตะวันออกรวมทั้งตะวันตก
12. ทำกันสาดให้กับหน้าต่างกระจก โดยกันสาดแนวยาวเหมาะสมกับหน้าต่าง ที่อยู่ทางทิศเหนือและทิศใต้ เนื่องจากว่าสามารถบังแดดในช่วงเที่ยงแล้วก็ช่วง บ่าย ส่วนกันสาดแนวตั้งเหมาะสมกับหน้าต่างที่อยู่ทิศตะวันออกรวมทั้งทิศตะวันตก
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/13ab59d091cb3c5ec7.jpg)
13. ติดตั้งผ้าม่านหรือฉากรอบๆหน้าต่างกระจก เพื่อคุ้มครองปกป้องความร้อนจากแสง อาทิตย์เข้าด้านในตัวบ้าน ส่วนการติดฟิล์มถ่ายรูปกรองแสงที่กระจกหน้าต่างนั้น แม้ว่าจะคุ้มครองปกป้อง ความร้อนจากแสงแดดได้ดีมากยิ่งกว่า แต่ค่าครองชีพสูงกว่าจึงไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบ
14. สำหรับห้องนอนหรือห้องที่อยากปรับอากาศที่ตั้งอยู่บริเวณชั้นสองเหนือ รอบๆที่จอดรถหรือระเบียง ควรจะมีการทาหรือพ่นฉนวนที่ฝ้าเพดานของที่จอดรถ หรือระเบียงนั้นๆเพื่อคุ้มครองปกป้องการนำความร้อนจากภายนอกผ่านใต้พื้นห้องเข้า สู่ตัวห้อง
15. ติดตั้งพัดลมที่มีไว้สำหรับระบายอากาศบนหลังคา เพื่อดูดอากาศร้อนใต้หลังคาออกไป ด้านนอก
16. ทำระเบียงยื่นพร้อมชิดกันสาดในทิศตะวันออกรวมทั้งทิศตะวันตก สำหรับใช้ เป็นที่นั่งรับประทานอาหารว่างหรือใช้ปรุงอาหารนอกบ้านแล้วยังช่วยลดความร้อนเข้ามา ในบ้านอีกด้วย
17. อุดรอยรั่วด้วยซีเมนต์หรือซิลิโคน (Silicone) ที่ช่องติดตั้งตะเกียง ช่องติด ตั้งพัดลมเพดาน ช่องที่จัดแจงไว้สำหรับเดินท่อน้ำ ฯลฯ เพื่อคุ้มครองปกป้องความ ร้อนจากด้านนอกผ่านเข้าช่องเพดาน
18. ทิศเหนืออยรั่วสะกดรอยต่อ ระหว่างฝาผนังขอบประตู หน้าต่าง เพื่อคุ้มครองปกป้องความ ร้อนและก็ความชุ่มชื้นจากด้านนอกผ่านเข้าไปในบ้าน (https://www.warinaxis.com/) ในเรื่องที่ห้องนั้นเป็นห้อง ปรับอากาศ
19. จัดวางตู้และก็ชั้นที่เอาไว้วางสิ่งของให้เหมาะสม ไม่บังลม ไม่กีดกั้นการระบาย อากาศ และไม่บังแสง
20. จัดวางโต๊ะที่มีไว้สำหรับใช้ในการเขียนหนังสือให้หันไปในฝาผนังด้านที่รับแสงธรรมชาติได้
21. หมั่นดูแลรักษาทำความสะอาด พรม ผ้าม่าน โซฟา ไม่ให้เฉอะแฉะ เพื่อลดภาระหน้าที่สร้างความเย็นเหตุเพราะความร้อนซ่อนเร้น
(https://img2.pic.in.th/pic/229b79e6061345e1f0.jpg)
22. แบ่งแยกห้องใช้สอยโดยนึกถึงการประหยัดพลังงาน โดยจัดห้องที่ใช้ ช่วงเช้าอยู่ในทิศตะวันออก ส่วนห้องที่ใช้สอยเกือบจะทั้งวันให้อยู่ทิศเหนือ เนื่องจากจะเย็นสบายที่สุด ดังเช่นว่า ห้องนั่งเล่นอยู่ในทิศเหนือ ฯลฯ
23. ควรจะจัดตั้งคอนเดนเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศในที่ร่ม หรือใต้ต้นไม้ แล้วก็จำเป็นต้องไม่มีสิ่งกีดขวางทางลมเข้ารวมทั้งออกมาจากคอนเดนเซอร์ ในด้านด้าน เหนือของบ้านเป็นด้านที่เหมาะสมที่จะติดตั้งคอนเดนเซอร์สูงที่สุด แต่ว่าหากไม่ สามารถจัดตั้งในด้านทิศเหนือก็สามารถติดทางทิศใต้ที่มีกันสาดแทนได้
24. ควรติดตั้งคอนเดนเซอร์ในที่ๆสามารถดูแลทะนุบำรุงสะดวก และก็ใน ที่ๆไม่ส่งเสียงรบกวนเข้ามาข้างในห้อง
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/25cecc109af0c8c799.jpg)
25. ควรจัดตั้งอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ (Thermostat) ข้างในห้องปรับอากาศ ให้สมควรหมายถึงไม่ควรโดนแสงอาทิตย์โดยตรง เพราะเหตุว่าจะทำให้เทอร์โมสตัท อ่านค่าผิดพลาด รวมทั้งควรจะจัดตั้งในรอบๆที่มีความสามารถที่จะอ่านค่าอุณหภูมิได้ง่ายและก็ รวมทั้งสะดวกต่อการปรับตั้งค่าอุณหภูมิตามปรารถนา
26. ควรติดตั้งเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ในบริเวณที่ไม่ปรับอากาศและก็เปิดเตียนโล่ง เป็นต้นว่า ที่จอดรถ ระเบียงนอกบ้าน เพื่อระบายความร้อนและลดความชุ่มชื้นที่ปลด ปล่อยมาจากอุปกรณ์ไฟฟ้ากลุ่มนี้ แต่ว่าถ้าหากจำต้องจัดตั้งในห้องปิด ควรจะจะต้องติด ตั้งพัดลมที่มีไว้เพื่อระบายอากาศ เพื่อป้องกันการสะสมความร้อนและก็ความชื้นภายในห้อง
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/26c9c17cdce97a144d.jpg)
27. ใคร่ครวญทำห้องครัวให้อยู่นอกตัวบ้าน แต่ว่าหากเลี่ยงไม่ได้ห้องครัวที่อยู่ ข้างในตัวบ้านควรมีการระบายความร้อนที่ดี เพราะว่าห้องครัวมักประกอบด้วย เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์หลายชนิด เป็นต้นว่า เตาอบ เตาหุงหาอาหาร กาต้มน้ำร้อน ตู้แช่เย็น ซึ่งเป็น แหล่งปล่อยความร้อนที่สำคัญ
(https://img2.pic.in.th/pic/28657330dcfc20dc78.jpg)
28. จัดตั้งเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันใบริเวณที่ทำการหุงต้มและอากาศ ที่ใช้กับเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันนี้ ควรมาจากด้านนอกบ้านไม่สมควรใช้อากาศ เย็นจากแอร์โดยตรง
29.เลือกใช้เครื่องใช้ไม้สอยรวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์สมรรถนะสูง นอกเหนือจากที่จะอดออม พลังงานจากตัวมันเองแล้วยังลดความร้อนที่ถูกปล่อยออกมาในเวลาใช้งาน อีกด้วย อาทิเช่น ใช้ตู้เย็นสมรรถนะสูง ใช้หลอดไฟฟ้าคุณภาพสูง เป็นต้น
กลับมาดัน ขอบคุณครับ